วันอังคารที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553

V

V ซีรี่ส์ฝรั่งแนวมนุษย์ต่างดาวมาเยือนโลก ที่นำกลับมาสร้างใหม่จากมินิซีรี่ชื่อเรื่องเดียวกันเมื่อ 28 ปีที่แล้ว เป็นเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่ภายนอกดูเป็นมิตรแต่เบื้องหลังมีแผนการร้าย เรียกว่ามนุษย์ต่างดาวกลุ่มนี้ฉลาด รู้จักเล่นการเมือง การใช้สื่อเป็นอาวุธ และเข้าใจธรรมชาติของมนุษย์เป็นอย่างดี ทำให้มนุษย์โลกอย่างเราๆ ถูกเล่นงาน ปั่นหัวได้ง่าย เพราะเอเลี่ยนกลุ่มนี้เค้าใช้วิธีจิตวิทยามวลชนมายึดโลก แล้วมันก็ทำท่าจะได้ผลซะด้วยสิ เรื่องนี้เพิ่งจบซีซั่นแรกไป ด้วยจำนวนตอน 12 ตอน อันสนุกสนานดึงดูดใจให้ดูต่อเนื่องแทบหยุดไม่ได้ เนื้อเรื่องดำเนินเร็วดีไม่เวิ่นเว้อ ในเรื่องจะว่าไปก็แฝงสาระอยู่ไม่น้อยเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์ ผ่านสายตาแบบมนุษย์ต่างดาว สรุปว่าเป็นซีรี่อีกเรื่องที่น่าติดตาม นำแสดงโดย Elizabeth Mitchell หรือ จูเลียต เบิร์ค ใน Lost นั่นเอง

วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Leverage

Leverage เป็นซีรี่ที่กล่าวถึงกลุ่มคนที่ หลอก ปล้น ต้มตุ๋น พวกคนรวย แล้วนำมาช่วยคนที่เดือดร้อน ซึ่งก็คือคนที่มาว่าจ้างนั่นเอง เป็นการปล้นเพื่ออุดมการ ทำให้คนในทีมไม่ทะเลาะหักหลังกันเพื่อผลประโยชน์ (ในจำนวนตัวละครซีรี่ที่เป็นกลุ่มทั้งหมด เราชอบกลุ่มนี้ที่สุด) ถ้าใครชอบดูหนังตระกูล Ocean Eleven น่้าจะถูกใจเรื่องนี้ เพราะแนวเดียวกัน แต่เรื่องสั้นกว่าคนก็น้อยกว่า เนื้อเรื่องเป็นแบบจบในตอน แต่น่าติดตาม จุดเด่นของเรื่องนี้อยู่ที่คนในทีมที่มีหน้าที่ และคาแรคเตอร์ของตัวละครที่โดดเด่นแตกต่างกัน และที่สำคัญคือ ไม่มีดราม่า ประเภททะเลาะ หักหลัง ปัญหาชีวิตไม่เน้น เนื้อเรื่องดูเพลิน ลุ้นๆ ไม่เครียด ไม่ตาย ตลกดีด้วยบางตอน ปัจจุบันกำลังออกอากาศซีซั่นที่ 3 ทางช่อง TNT ในอเมริกา

White Collar

White Collar เป็นซีรี่แนวสืบสวนตามหาอาชญากรอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเน้นอาชญากรรมที่เกี่ยวกับการปล้นงานศิลปะ หรือของมีค่าซะเป็นส่วนใหญ่ (ดูๆไป ก็นึกถึงเรื่อง Leverage) มีจุดเด่นอยู่ที่นำอาชญากรมาตามล่าอาชญากร ซึ่งคนนั้นก็คือ นีล แคฟฟรีย์ โจรหนุ่มหล่อตาสีฟ้าใส ที่ต่อรองขอออกมาช่วยงาน FBI เพื่อให้พ้นโทษก่อนกำหนด โดยต้องใส่เครื่องมือติดตามตัวตลอดเวลา แต่ก็ดีกว่าอยู่ในคุกเป็นไหนๆ ส่วน FBI ที่นำนีลออกมาก็คือ ปีเตอร์ เบิร์ค เจ้าหน้าที่ FBI ที่เป็นคนจับนีลเข้าคุกนั่นเอง เป็นที่มาของชื่อเรื่อง "White Collar" ที่หมายถึง พระเอกที่เคยเป็นคนร้ายแต่ต้องมาทำงานให้ฝ่ายคนดี (คนดี = White) ก็คือตำรวจโดยมีอุปกรณ์ติดตามตัว เปรียบเหมือนปลอกคอ เป็นซีรี่เรื่องนี้ดูแล้วไม่ค่อยเน้นที่คดีอันซับซ้อนมากเท่าไหร่ แต่เป็นความสัมพันธ์ของตัวละครมากกว่า โดยเฉพาะ นีล และ ปีเตอร์ ซึ่งเป็นคู่หูตำรวจผู้ร้ายที่รักกันมาก ชอบทะเลาะกันเหมือนเด็กๆ นับเป็นเรื่องที่ดูแล้วรู้สึกดีไม่โหดร้ายกับคนดูและไม่น่าเบื่อด้วย ซี่รี่เรื่องนี้ออกอากาศทางช่อง USA Network ปัจจุบันฉายจบซีซั่น 1 แล้วมีทั้งหมด 14 ตอน และกำลังฉายซีซั่น 2 มี 16 ตอน คาดว่าจะครบ 16 ตอนในปี 2011

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Gossip Girl : Serena van der Woodsen

Serena van der Woodsen เซรีนาเป็นหญิงสาวที่ค่อนข้างมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และมักจะทำอะไรนอกกรอบอยู่เสมอ เธอเคยเป็นนักเที่ยวตัวยง ก่อนจะพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากกลับมานิวยอร์ก ในตอนเริ่มเรื่องของซีซั่น 1 แสดงโดย Blake Lively

Blake Lively เกิดวันที่ 25 สิงหาคม 1987 ปัจจุบันอายุ 23 ปี เกิดที่ทาร์ซานา แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เบลคเป็นน้องเล็กสุดในพี่น้อง 5 คน เกิดมาในครอบครัวของนักแสดง ทั้งพ่อแม่และพี่ๆ ทุกคนล้วนอยู่ในวงการบันเทิงหรือ เคยอยู่ในวงการมาก่อน ตอนเด็กๆ พ่อแม่เธอมักจะพาเธอไปที่ห้องเรียนการแสดงที่พ่อและแม่ของเธอเป็นผู้สอน เพราะไม่อยากทิ้งเบลคไว้กับพี่เลี้ยง จึงทำให้เธอได้ซึมซับเกี่ยวกับการแสดงตั้งแต่เด็ก เบลคเริ่มแสดงหนังเรื่องแรกตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ในเรื่อง Sandman ที่พ่อของเธอเป็นผู้อำนวยการสร้าง

วันอาทิตย์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Criminal Minds : Episode List

Season 1
episode 1 "Extreme Aggressor" (2005-09-22)
episode 2 "Compulsion" (2005-09-28)
episode 3 "Won't Get Fooled Again" (2005-10-05)
episode 4 "Plain Sight" (2005-10-12)
episode 5 "Broken Mirror" (2005-10-19)
episode 6 "L.D.S.K." (2005-11-02)
episode 7 "The Fox" (2005-11-09)
episode 8 "Natural Born Killer" (2005-11-16)
episode 9 "Derailed" (2005-11-23)
episode 10 "The Popular Kids" (2005-11-30)
episode 11 "Blood Hungry" (2005-12-14)
episode 12 "What Fresh Hell" (2006-01-11)
episode 13 "Poison" (2006-01-18)
episode 14 "Riding the Lightning" (2006-01-25)
episode 15 "Unfinished Business" (2006-03-01)
episode 16 "The Tribe" (2006-03-08)
episode 17 "A Real Rain" (2006-03-22)
episode 18 "Somebody's Watching" (2006-03-29)
episode 19 "Machismo" (2006-04-12)
episode 20 "Charm and Harm" (2006-04-19)
episode 21 "Secrets and Lies" (2006-05-03)
episode 22 "The Fisher King, Part 1" (2006-05-10)

Criminal Minds

Criminal Minds เป็นซีรี่ส์แนวสืบสวนเรื่องหนึ่งที่เราชอบดูมากที่สุด เป็นเรื่องของทีม BAU หรือ Behavioral Analysis Unit ของ FBI เป็นทีมที่มีความสามารถในการวิเคราะห์จิตใจ และพฤติกรรมของฆาตกรต่อเนื่อง ที่บางคดีถือว่าโรคจิตแบบโหดเกินมนุษย์ โดยการทำงานของทีมนี้จะมีออฟฟิศอยู่ที่สำนักงาน FBI ที่ควอนติโก และเมื่อตามท้องที่ต่างๆ เกิดคดีฆาตกรรม หรือลักพาตัว หรืออะไรก็ตามที่ตำรวจท้องถิ่นต้องการความช่วยเหลือ ส่วนใหญ่จะต้องการความช่วยเหลือเมื่อต้องแข่งกับเวลา ก็จะติดต่อมาที่ทีมนี้เพื่อให้เดินทางไปช่วยคลี่คลายคดี ปัจจุบันซีรี่ส์เรื่องนี้มีถึงซีซั่นที่ 5 และกำลังเริ่มฉายซีซั่นที่ 6 ในอเมริกา

วันเสาร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Grey's Anatomy

Grey's Anatomy เป็นซีรี่เกี่ยวกับเรื่องของศัลยแพทย์ หรือหมอผ่าตัดมือใหม่ที่เพิ่งเรียนจบ แล้วมาเป็นอินเทิร์นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในซีแอตเติล เรื่องนี้ถือเป็นแนวดราม่าเข้มข้นนำเสนอเรื่องราวของบรรดาหมอมือใหม่ที่กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ รวมทั้งเหล่าอาจารย์แพทย์และคนไข้ ซีรี่เรื่องนี้เป็นซีรี่เรื่องยาวที่ควรจะต้องดูต่อเนื่อง เพราะถึงแม้ส่วนใหญ่แต่ละตอนจะมีเคสของคนไข้แบบจบในตอนก็จริง แต่เรื่องนี้กลับเน้นเรื่องราวชีวิตของบรรดาหมอๆ แทบจะมากกว่าชีวิตคนไข้เสียอีก โดยเฉพาะซีซั่นท้ายๆ จะยิ่งเข้มข้นจนงงว่า เรื่องหมอๆ จะต้องทำให้ตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

Grey's Anatomy ขณะนี้มีครบถึงซีซั่นที่ 6 แล้ว และกำลังเริ่มฉายซีซั่นที่ 7

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Dexter : Episode List

Season 1
episode 1 "Dexter" (2006-10-01)
episode 2 "Crocodile" (2006-10-08)
episode 3 "Popping Cherry" (2006-10-15)
episode 4 "Let's Give the Boy a Hand" (2006-10-22)
episode 5 "Love American Style" (2006-10-29)
episode 6 "Return to Sender" (2006-11-05)
episode 7 "Circle of Friends" (2006-11-12)
episode 8 "Shrink Wrap" (2006-11-19)
episode 9 "Father Knows Best" (2006-11-26)
episode 10 "Seeing Red" (2006-12-03)
episode 11 "Truth Be Told" (2006-12-10)
episode 12 "Born Free" (2006-12-17)

The Closer : Episode List

Season 1
episode 1 "Pilot[note 1]" (2005-06-13)
episode 2 "About Face" (2005-06-20)
episode 3 "The Big Picture" (2005-06-27)
episode 4 "Show Yourself" (2005-07-04)
episode 5 "Flashpoint" (2005-07-11)
episode 6 "Fantasy Date" (2005-07-18)
episode 7 "You Are Here" (2005-07-25)
episode 8 "Batter Up" (2005-08-01)
episode 9 "Good Housekeeping" (2005-08-08)
episode 10 "The Butler Did It" (2005-08-15)
episode 11 "LA Woman" (2005-08-22)
episode 12 "Fatal Retraction" (2005-08-29)
episode 13 "Standards and Practices" (2005-09-05)

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

ประเทศสหรัฐอเมริกา

ดูหนังดูละครของประเทศเค้ามาเยอะ เคยสงสัยมั้ยคะ เวลาดูแล้วเค้าบอกว่าไปเมืองนู้นรัฐนี้ แล้วเรานึกภาพไม่ออก บางทียังไม่รู้เลยว่าเมืองนี้อยู่ตรงไหนของประเทศอยู่รัฐอะไร ถ้าคนที่เคยไปเที่ยวหรือไปเรียนแล้วคงจะพอทราบ แต่สำหรับคนที่ได้แต่ดูหนังดูซีรี่ส์อยู่กับบ้านอย่างเราคงงงๆ กันไปบ้าง ดังนั้นมารู้จักภูมิศาสตร์คร่าวๆ ของประเทศนี้กันดีกว่าค่ะ

ประเทศสหรัฐอเมริกา (United States of America) เป็นสหพันธรัฐประชาธิปไตย ปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ ประกอบไปด้วยรัฐ 50 รัฐ มีเมืองหลวงคือ วอชิงตัน ดี.ซี. เมืองที่มีประชากรมากที่สุด คือ นิวยอร์ค ซิตี้ ในรัฐนิวยอร์ค มีพื้นทางด้านเหนือติดกับแคนาดา ทิศใต้ติดกับเม็กซิโก (ในหนังหรือซีรี่ส์เวลาหนีตำรวจชอบหนีไปเม็กซิโกกัน)


ตำแหน่งของตำรวจในอเมริกา

ด้วยความที่ชอบดูซีรี่ส์เกี่ยวกับการสืบสวนสอบสวนของตำรวจมากเป็นพิเศษ เลยเกิดความสงสัยค่ะ ว่าอันดับการบัญชาการของตำรวจในอเมริกาเค้าเป็นยังไงกันบ้าง เลยลองหาดูได้ความดังนี้ค่ะ

ถึงแม้ในสหรัฐอเมริกาจะมีเารปกครองหลายรัฐ หลายเมืองก็ตาม แต่สามารถสรุปได้ตามนี้เรียงจากอันดับสูงสุดไปต่ำสุดค่ะ

1. Chief of police/police commissioner/superintendent/sheriff
2. Deputy Chief of police/Deputy Commissioner/Deputy Superintendent/undersheriff
3. Inspector/commander/colonel :
4. Major/deputy inspector
5. Captain : ผู้กอง
6. Lieutenant : ผู้หมวด
7. Sergeant : จ่า
8. Detective/Inspector/Investigator : ตำรวจนักสืบ
9. Officer/Deputy Sheriff/corporal : เจ้าหน้าที่ตำรวจ

ที่มา : wikipedia.org

The Closer

The Closer เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เกี่ยวกับการสืบสวนคดีฆาตกรรมของกรมตำรวจ ซึ่งในเรื่องนี้เหตุเกิดที่ LA  The Closer หรือในชื่อแบบไทยว่า จ้าวแห่งการปิดคดี (จ้าวเลยเหรอ?) ประกอบกับภาพประกอบบนปกดีวีดีหรือโปสเตอร์โปรโมต ทำให้ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นซีรี่ส์ฝรั่งเรื่องนึงที่เครียดมากกก เต็มไปด้วยการต่อสู้ฟาดฟันทางกฎหมาย อัยการ และทนาย แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่ได้เครียดจัดดแบบนั้น เรื่องราวเริ่มต้นด้วย เบรนด้า ลี จอห์นสัน ตำรวจหญิงมากฝีมือที่ย้ายมาจากแอตแลนตา เพื่อกินตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าแผนกฆาตกรรมของกรมตำรวจลอสแองเจลิส (LAPD) แน่นอนล่ะที่ต้องสร้างความไม่พอใจกับคนในพื้นที่ ที่หมายตาตำแหน่งนี้มานานแล้ว แต่ถึงแม้เธอจะประสบปัญหาตั้งแต่มาถึง ไม่ว่าจะเป็น ขับรถหลงทางเพราะไม่คุ้นกับพื้นที่ หรือปัญหาลูกน้องแข็งข้อ แต่เธอก็สามารถฟันฝ่าจนทำให้ลูกน้องยอมรับในตัวเธอในที่สุด จุดเด่นของซีรี่เรื่องนี้ คือ เบรนด้าที่ถนัดในเรื่องการสอบสวน และการเคร่งครัดในระเบียบ และขั้นตอนการจับกุม การเก็บหลักฐาน ก็เพื่อที่จะสามารถปิดคดีได้โดยไม่เกิดข้อผิดพลาดที่ทนายฝ่ายจำเลยจะนำมาใช้ให้คนร้ายหลุดคดีไปได้ ส่วนเนื้อหาการสืบสวนก็คล้ายกับซีรี่แนวสืบสวนทั่วไป แต่เป็นลักษณะของสั่งการแล้วรอรับผล แล้วนำมาวิเคราะห์ ต่างจากซีรี่ส์สืบสวนแบบ CSI ที่นอกจากจะสั่งการสืบสวนตามขั้นตอนแล้ว ยังต้องแสดงวิธีสืบสวนทางวิทยาศาสตร์ให้เห็นชัดๆ อีกด้วย

สำหรับซีรี่เรื่องนี้เริ่มฉายครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2005 จนถึงกันยายน ปี 2010 นี้ รวมแล้ว 6 ซีซั่น

วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

หมวดหมู่ซีรี่ส์

รายชื่อซีรี่ที่เคยดู + คำแนะนำสั้นๆ สำหรับคนที่กำลังหาซีรี่ดูค่ะ

แนวแหกคุก (ถือเป็นแนวหนึ่งของซีรี่ได้เลย)
Prison Break - แนวแหกคุก พระเอกหล่อ ฉลาด วางแผนเข้าคุกแล้วแหกคุก

แนวแอคชั่น (มียิงปืน ลงไม้ลงมือกันบ้าง)
24 - มันมาก แต่ต้องพยายามผ่านตอนแรกๆ ของ Season 1 ไปให้ได้ก่อน จากนั้นจะดูจนไม่ได้หลับไม่ได้นอนเลยทีเดียว
Flashpoint - เราชอบอ่ะ แนวเหมือนจะแอคชั่น แต่พยายามแก้ปัญหาแบบดราม่าก่อน ถ้าแก้ไม่ได้ถึงค่อยใช้วิธีรุนแรง
The Unit - ทหารหน่วยพิเศษ ที่ทำภารกิจเสี่ยงๆ ควบคู่กับเรื่องราวของแม่บ้านในหน่วยนี้
Human Target - แนวบอดี้การ์ดให้กับคนที่ถูกตามฆ่า บู๊ได้ใจทีเดียว

True Blood : Episode list

Season 1
episode 1 "Strange Love" (2008-09-07)
episode 2 "The First Taste" (2008-09-14)
episode 3 "Mine" (2008-09-21)
episode 4 "Escape from Dragon House" (2008-09-28)
episode 5 "Sparks Fly Out" (2008-10-05)
episode 6 "Cold Ground" (2008-10-12)
episode 7 "Burning House of Love" (2008-10-19)
episode 8 "The Fourth Man in the Fire" (2008-10-26)
episode 9 "Plaisir d'Amour" (2008-11-02)
episode 10 "I Don't Wanna Know" (2008-11-09)
episode 11 "To Love is to Bury" (2008-11-16)
episode 12 "You'll Be the Death of Me" (2008-11-23)

True Blood

True Blood ซีรี่ส์ฝรั่งเรื่องนี้เพิ่งดูจบซีซั่นแรกไปเมื่อกี๊นี้เองค่ะ สดๆเลย เป็นซีรี่ส์เกี่ยวกับแวมไพร์ในยุคปัจจุบันที่มีการเปิดเผยถึงการมีอยู่ของพวกเขาต่อมนุษย์โลก พล็อตน่าสนใจดีค่ะ เป็นการนำพล็อตเรื่องแนวแฟนตาซีร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดในยุคปัจจุบัน (พระเอกแวมไพร์เล่นเกม Wii ด้วย) ซึ่งพล็อตแนวนี้ก็มาแรงมากๆ ตอนนี้มีถึง 3 ซีซั่นแล้ว

งั้นขอพูดถึงซีซั่นแรกก่อนแล้วกัน เริ่มแรกที่ดูก็สะดุดก่อนเลยคือสำเนียงของนางเอกค่ะฟังแปลกๆ ไม่คุ้นหูเลย เลยไปหาข้อมูลมาว่าเป็นสำเนียงทางใต้ตามท้องเรื่องคือรัฐหลุยส์เซียน่า (Louisiana) ซึ่งเป็นรัฐที่อยู่ในโซน South Central State ของประเทศสหรัฐอเมริกา และที่โดดเด่นอีกอย่างของเรื่องนี้คือ ฉากเรท ที่เรทแบบถอดหมด และมีหลายฉากด้วย เรียกว่าเวลาจะนั่งดู ต้องดูดีดีว่าพ่อกับแม่ไม่อยู่แถวนั้นอ่ะค่ะ
เนื้อเรื่องในตอนแรกๆมันให้ความรู้สึกคล้ายๆ Twilight เลยนะในความคิดเรา คือ มันออกแนว โรแมนติค แบบว่ามีรักแรกพบ แล้วพระเอกก็คอยปกป้องนางเอก อะไรแบบนี้ แต่พอดูๆไปก็เริ่มเห็นความแตกต่างมากขึ้น คือ Tru Blood เนี่ย เลือดสาดกว่า เรทกว่ามาก แล้วก็มีตัวละครมากมายหลากหลายกว่าเยอะ อาจจะเพราะเป็นละครด้วยมั้งคะ เลยมีเนื้อเรื่องที่กว้างกว่า แต่จากการดูซีซั่นแรกจบไปก็อยากดูต่อนะ ถือว่าสนุกดีเลยล่ะค่ะ

วันเสาร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553

Life Unexpected

Life Unexpeted ซีรี่แนวครอบครัว ที่ไม่ได้นำเสนอแค่ปัญหาครอบครัว ความขัดแย้ง และสุดท้ายก็เข้าใจกัน แต่การดำเนินเรื่องเริ่มต้นจากการไม่เคยมีครอบครัว ของเด็กสาวกำพร้า วัย 15 ปีที่ตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง ไม่ใช่เพื่อคาดหวังครอบครัว หรือความรักในตอนแรก แต่ตามหาเพียงเพื่อให้พ่อแม่แท้ๆ เซ็นต์เอกสารเพื่อที่เธอจะยื่นต่อศาลขอให้ศาลมีคำสั่งให้เธอสามารถดูแลตนเองไม่ต้องมีผู้ปกครอง และออกจากระบบครอบครัวอุปถัมภ์ที่ทำให้เธอไม่มีความสุข
แต่เมื่อเธอได้พบกับพ่อแม่ที่แท้จริง ก็กลายเป็นว่าพ่อแม่ที่เคยทิ้งเธอไปตั้งแต่เกิดกลับเข้ามาในชีวิตเธอโดยไม่คาดคิด เนื่องจากศาลกลับสั่งให้ตัวเธอกลับไปอยู่ในการดูแลของพ่อแม่แท้ๆ เป็นการชั่วคราว และแล้วเรื่องราวต่างๆ ก็ได้ดำเนินต่อจากจุดนี้
ตอนแรกที่ตัดสินใจเสาะหาซีรี่เรื่องนี้มาดูก็เพราะว่า ว่างค่ะ เนื่องจากช่วงนั้นซีรี่เรื่องที่รอคอยยังไม่มา ก็เลยดูเรื่องนี้ไปพลางๆ ก่อน เพราะปกติไม่ค่อยชอบดูซีรี่แนวครอบครัวซักเท่าไหร่ แต่ผิดคาดเลย กลายเป็นว่าดูแล้วชอบมาก และที่สำคัญซีรี่เรื่องนี้ทำให้เราซาบซึ้งจนถึงขั้นน้ำตาไหลเลยทีเดียว กับความสัมพันธ์ในครอบครัวและคำพูดกินใจของตัวละคร และพวกเขาก็เล่นดีกันมากๆเลยค่ะ

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

CSI New York

มาซะทีหลังจากไม่ได้อัพเดตบล็อคมานาน มัวแต่ไปตามดูซีรี่ที่ค้างคาอยู่ค่ะ ที่หายไปนานนี่ไปดูเรื่อง CSI New York มา โอ้โหตะบันดูไป 2 season ล่าสุด คือ 5 กับ 6 สนุกมากๆ เลยเอามาแนะนำซะเลย จริงๆ ซีรี่ตระกูลนี้ก็เป็นที่รู้จักมานานหลายปีแล้วนะคะ ตั้งแต่ CSI Las Vegas แล้วมา Miami สุดท้ายน้องใหม่คือ New York ซึ่งแต่ละชุดก็ปาเข้าไป 10, 8 และ 6 season ตามลำดับ แต่เราเริ่มดู New York (อย่างจริงจัง) ก่อน ชุดอื่นเคยดูผ่านๆ ทางช่อง AXN (True Vision) ที่เลือกดูนิวยอร์คก่อนเพราะว่า...ชื่นชอบคุณพี่ Mac Taylor เป็นการส่วนตัวค่ะ อิอิ แต่ต่อไปก็จะหามาดูให้ครบทั้งหมดเพราะว่าชอบซีรี่แนวสืบสวนแบบนี้แหละค่ะ

เอาล่ะ โม้มาเยอะแล้ว มาแนะนำเรื่องนี้ดีกว่า...

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Dexter season 5 spoiler!!!

ขอเตือนว่าสปอยล์ขั้นรุนแรงเลยนะคะ ใครยังไม่ได้ดูอย่าเผลอกดเข้ามาล่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Dollhouse

Dollhouse มีพล็อตเรื่องเป็นแนววิทยาศาสตร์ คล้ายๆ หนังกับเรื่องที่เกี่ยวกับหุ่นยนต์ เช่น A.I., Bicentenial man, I robot แต่มีความแตกต่างจาก 3 เรื่องดังกล่าวตรงที่ ทั้ง 3 เรื่องนั้น เป็นโลกยุคอนาคตกว่านี้มากๆ ที่การมีหุ่นยนต์ในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องปกติ และหุ่นยนต์เหล่านั้นก็เป็นหุ่นยนต์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ไม่ใช่คน แต่เรื่อง Dollhouse ใช้มนุษย์จริงๆ มาเป็นหุ่นยนต์ (และเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมและกฎหมายด้วยสำหรับธุรกิจประเภทนี้)

วันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เมื่อ "Blair Waldorf" เป็นนักร้อง

ใช่แล้วล่ะค่ะ Blair Waldorf หรือชื่อจริง คือ Leighton Marissa Meester สาวเท็กซัสวัย 24 ปี หลังจากที่โด่งดังในบท Blair Waldorf ในซีรี่เรื่องดัง Gossip Girl ในที่สุดก็ได้พบเธอในบทบาทใหม่ คือการเป็นนักร้อง ด้วยซิงเกิลแรก (ที่เคยได้ยิน) ชื่อเพลงว่า Somebody To Love โดยร่วมร้องกับ Robin Thickeซึ่งใน Music Video เพลงนี้เธอเปรี้ยวจนเสียวฟันจริงๆ โดยเธอให้สัมภาษณ์กับพิธีกร Ryan Seacrest ถึงเพลงๆนี้ว่า “definitely about what’s going on in my life and I think anybody can relate. You’re crazy, you’re busy, you’re young and you’re running around and it’s really hard to find somebody to love. People love you but you don’t really love them.” แปลว่า เนื้อเพลงนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอและหลายๆ คน ที่ชีวิตเรามีเรื่องยุ่งๆมากมายจนหาคนที่จะให้เรารักนั้นยากเหลือเกิน ทั้งๆ ที่มีหลายคนรักเรา แต่เราก็ไม่ได้รักพวกเขา อ่ะ แถมเนื้อเพลงกับ Music Video ให้ด้วยละกัน ^^
Leighton Meester - ‘Somebody To Love’
Paris, France to Michigan
London town and through Berlin
I can’t believe this place I’m in
Everywhere and back again
Porcelain and China dolls
Give me one and I’ve seen them all
Got my back against the wall
Wonder where I’ll be tomorrow?

But wait, now how long could this take?
It’s hard to find a man,
When you’re gone before he wakes.
They say it’s hard to achieve
But can’t a girl believe?

(Chorus)
Is there somebody who still believes in love?
I know you’re out there
There’s got to be somebody
I search around the world
But I can’t seem to find
Somebody to love

(Robin Thicke)
Baby girl, there you at
Looking at me like a putty cat
Wondering where that thing is at
Wondering where your ring is at
Nobody ever did it quite like this
Nobody ever did it quite like you
Do your hair, I bought you shoes
We can hit the town like superstars do
You fall in love? Then let me show you love
Give me the key to your heart
I can give you what you want
When you’re waiting for love
And you’re lookin’ for someone
I’mma turn this gossip girl into a woman

[Chorus x2]

Je t’adore, Je t’adore (I love you, I love you)
Make a move, do the thing
Turn around, strike a pose
Je t’adore, Je t’adore (I love you, I love you)
Make a move, do the thing
Turn around, strike a pose
Ooh, I like it
Ooh, I need it
Ooh, I want it
Hey Hey

I know it’s hard to achieve
But can’t a girl believe?

[Chorus x2]

(You say hello, I say goodbye) x2
Somebody to love

Read more: http://justjared.buzznet.com/2009/10/13/leighton-meester-somebody-to-love-lyrics/#ixzz0vKBfu0ZK




วันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Gossip Girl : Episode list

Season 1
episode 1 Pilot
episode 2 The Wild Brunch
episode 3 Poison Ivy
episode 4 Bad News Blair
episode 5 Dare Devil
episode 6 The Handmaiden's Tale
episode 7 Victor, Victrola
episode 8 Seventeen Candles
episode 9 Blair Waldorf Must Pie!
episode 10 Hi, Society
episode 11 Roman Holiday
episode 12 School Lies
episode 13 The Thin Line Between Chuck and Nate
episode 14 The Blair Bitch Project
episode 15 Desperately Seeking Serena
episode 16 All About My Brother
episode 17 Woman on the Verge
episode 18 Much 'I Do' About Nothing

Gossip Girl

And, who am I? That's one secret I'll never tell. You know you love me.

XOXO, Gossip Girl

ถ้าใครเคยดู Gossip Girl คงจะคุ้นกันดีกับประโยคนี้ ใช่แล้วค่ะ เป็นประโยคประจำตัวสาวช่างเม้าท์ประจำเรื่องที่ติดตามกันมาถึงซีซั่นที่ 3 แล้วก็ยังไม่รู้ว่าเธอเป็นใครอยู่ดี เรื่องนี้มักจะเป็นที่ถูกใจสาวๆหลายๆคน แต่ก็ใช่ว่าหนุ่มๆจะไม่ดูกันนะคะ ด้วยเนื้อเรื่องที่ไม่ได้มีแค่ด้านเดียว (ด้านความรัก ชิงไหวชิงพริบกันระหว่างสาวๆ) แต่มีเรื่องมิตรภาพ เรื่องความสัมพันธืในครอบครัว และการใช้ชีวิตของเหล่าไฮโซชาวนิวยอร์คอยู่ด้วย พลอตเรื่องแบบนี้นี่แหละค่ะที่ดึงดูดใจหนุ่มๆสาวๆ และวัยอื่นๆ ที่ "หลง" เข้ามาดูเรื่องนี้กันเป็นแถว

วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Lost

เรื่องนี้คนส่วนใหญ่น่าจะรู้จักแล้วล่ะค่ะ แต่วันนี้พอดีได้ดูเรื่องนี้ที่มาฉายทางช่อง AXN รู้สึกว่าจะเป็นซีซั่นท้ายๆแล้วล่ะ แล้วก็มีคนที่ไม่เคยดูมายืนข้างๆคอยถามนู่นถามนี่เกี่ยวกับซีรี่เรื่องนี้ระหว่างที่ดู พบว่า...ไม่รู้จะเล่าเรื่องให้เค้าฟังยังไง ลำดับไม่ถูก ด้วยความที่ซีรี่เรื่องนี้ยาวมาก มีถึง 6 ภาค (season) แต่ละซีซั่นก็ฉายสลับไปมาระหว่างช่วงเวลาอีก เล่าไปเล่ามาเลยงงซะเองเลย
ก็แนะนำละกันเรื่องนี้คนที่ไม่เคยดูแล้วอยากดูก็หามาดูซะเหอะ แนะนำให้ดูต่อเนื่องไปเลยจะดีมาก หมายถึงไม่ต้องเอาเรื่องอื่นมาขั้นน่ะค่ะ (ไม่ใช่ดูต่อเนื่องไม่กินไม่นอน) เราว่าเรื่องนี้ก็ไม่เร้าใจมากขนาดหยุดดูไม่ได้นะ มันสามารถหยุดแล้วไปนอนได้ ไม่ถือว่าดึงดูดแรงขนาดนั้น แต่ตื่นมาแล้วเปิดดูต่อเลยนะ

วันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

Dexter

Dexter Morgan เป็นชื่อของตัวละครหลักในซีรี่ของอเมริกาเรื่อง "Dexter" ถ้าถามว่าเรื่องนี้มีความน่าสนใจยังไงถึงต้องนำมาเขียนถึงแบบนี้น่ะเหรอคะ ก็เพราะว่ามันมีความแตกต่างจากซีรี่แนวอาชญากรรมเรื่องอื่นๆ ตรงที่ พระเอกเรื่องนี้เป็นทั้งตำรวจและฆาตกรในคนเดียวกันน่ะสิ ตอนนี้เพิ่งดูแค่ season แรกเอง แต่ก็ยอมรับว่าเริ่มติดใจซะแล้วล่ะค่ะ บรรยากาศโดยรวมของซีรี่เรื่องนี้จะเป็นแนวโหดๆ มืดๆมนๆ หน่อยนึงค่ะ เพราะว่าอย่างที่บอก ก็พระเอกของเราดันกลายเป็นคนร้ายซะขนาดนี้ จะไปสดใส สนุกสนานได้ไง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะโหด และเครียดจนเกินไปนะคะ อย่างฉากการฆ่า ก็ไม่ถึงกับเชือดให้ดูกันสดๆ ก็มีตัดภาพหลบไป พอให้รู้ว่าจะเชือดล่ะนะ อะไรแบบนี้ สำหรับซีรี่เรื่องนี้ตอนนี้มีถึงซีซั่นที่ 4 เข้าไปแล้วนะคะ ซึ่งซีซั่นที่ 4 นี่แหละที่คนพูดถึงกันมากเลย ว่าสนุกมากกกกก เอาล่ะค่ะถ้าใครยังไม่เคยดูเรื่องนี้คงอยากรู้เรื่องย่อคร่าวๆ กันแล้วใช่มั้ย อ่านตามมาเลยค่ะ
เด็กเตอร์เป็นเด็กกำพร้า ถูกรับเลี้ยงโดยตำรวจของรัฐไมอามี่ Harry Morgan ตั้งแต่ Dexter อายุได้ 3 ขวบ ซึ่ง Dexter มีน้องสาว 1 คน Debra Morgan ที่เป็นลูกแท้ๆของพ่อแม่บุญธรรม
ต่อมาเมื่อ Dexter เติบโตขึ้น พ่อบุญธรรมเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของลูกชาย พูดง่ายๆว่าเห็นความเป็นฆาตกรโรคจิตนั่นเอง เมื่อพบว่าไม่สามารถแก้ไขอาการของลูกชายได้ พ่อของเด็กซ์เตอร์ก็เริ่มสอนวิธีในการปลดปล่อยความต้องการฆ่าด้วยการฆ่าฆาตกรหรืออาชญากรที่กฎหมายไม่สามารถเอาผิดได้ พร้อมวิธีกลบเกลื่อนร่องรอยและการเอาตัวรอดให้กับเด็กซ์เตอร์ โดยที่เด็กซ์เตอร์ต้องคอยปิดบังทุกคนอยู่ตลอดเวลาว่าตัวเองเป็นคนยังไง มีเพียงพ่อบุญธรรมคนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่องและสนิทกับเขาที่สุด

เนื้อเรื่องโดยรวมก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ แต่ยังมีตัวละครที่มีความสำคัญอยู่อีกมากในเรื่องนี้ เช่น
- เดบร้า น้องสาวเด็กซ์เตอร์ ซึ่งเป็นตำรวจในหน่วยเดียวกัน (เด็กซ์เตอร์ทำงานเป็นนักวิเคราะห์การกระจายของหยดเลือด ในกรมตำรวจไมอามี่)
- ริต้า แฟนสาวของเด็กซ์เตอร์ แม่หม้ายสาวมีลูกติด 2 คน
- มาเรีย ลาเกอต้า หัวหน้าสาว ที่คอยส่งสายตายั่วยวนให้พระเอกของเราตลอด

เกริ่นนำไปแค่นี้ก่อนก็แล้วกันค่ะ สำหรับซีรี่เรื่องนี้ บ๊าย บาย